ศาลพระพรหมเอราวัณ เป็นหนึ่งในศาลฮินดูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตัวเมืองกรุงเทพฯ อยู่หน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ หัวมุมถนนเพลินจิตและราชดำริ ตลอดทั้งกลางวัน (และกลางคืน) มักจะเห็นผู้คนมากมายมากราบไหว้ ถวายดอกไม้ ธูปเทียนบูชาองค์ท้าวมหาพรหมปิดทองหลังพระ 4 พักตร์
ท่านท้าวมหาพรหมเป็นท้าวมหาพรหมที่ขึ้นชื่อเรื่องความกรุณา ความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจและความไม่ลำเอียง เนื่องจากศาสนาพุทธในประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากความเชื่อของศาสนาพราหมณ์มาโดยตลอด เขาจึงสร้างผลกระทบต่อคนในท้องถิ่นทันที กระแสประชาชนจากทั่วโลกทำพิธีเซ่นไหว้ด้วยธูป พวงมาลัย ดอกไม้ ผลไม้ และช้างไม้สัก เมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้ศรัทธาแล้ว ดูเหมือนว่าศาลพระพรหมเอราวัณได้ขอพรมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา การบริจาคเงินได้รับการจัดการโดยมูลนิธิที่กระจายทุนอย่างสม่ำเสมอให้กับองค์กรการกุศลและจัดหาอุปกรณ์สำหรับโรงพยาบาลในหลายจังหวัดของประเทศไทย ศาลพระพรหมเอราวัณจัดการแสดงนาฏศิลป์ไทยที่สง่างามหลายครั้งต่อวัน เช่นเดียวกับการเชิดสิงโตที่มีชีวิตชีวาในโอกาสพิเศษต่างๆ
ไฮไลท์ ศาลพระพรหมเอราวัณ
ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศต่างนิยมมาเยี่ยมชมและบูชาวัตถุมงคลอันเลื่องชื่อนี้ กรุ๊ปทัวร์จำนวนมากจากหลายประเทศจัดไว้เพื่อสักการะพระพรหมโดยเฉพาะ ประวัติของศาลศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2494 เมื่อพลตำรวจเอกเภา ศรียานนท์ มอบหมายให้สร้างโรงแรมเอราวัณที่สี่แยกราชประสงค์เพื่อรับแขกต่างชาติ กล่าวกันว่าในช่วงแรกของการก่อตั้งนั้นมีเหตุร้ายเกิดขึ้นมากมาย ต่อมาเมื่อการก่อสร้างจวนจะแล้วเสร็จในปลายปี พ.ศ. 2499
ผู้บริหารโรงแรมของ Syndicate of Thai Hotels & Tourists Enterprises Limited ได้ติดต่อกับพลเรือตรี หลวงสุวิชาญแพทย์ หัวหน้าแพทย์ทหารเรือและผู้เชี่ยวชาญด้านการนั่งสมาธิเพื่อจัดฤกษ์เปิดโรงแรม อย่างไรก็ตามพลเรือตรี หลวงสุวิชาญแพทย์ได้แนะนำการถวายบังคม เพื่อแก้ไขปัญหาโรงแรมต้องบูชาพระพรหมเพื่อขับไล่สิ่งกีดขวางและต้องสร้างศาลพระพรหมเอราวัณและเรือนวิญญาณในโรงแรมทันทีหลังจากที่สร้างโรงแรมเสร็จ
ทำให้เกิดการก่อสร้างศาลเจ้า องค์พระพรหมออกแบบและปั้นด้วยปูนปิดทองโดยช่างหัตถศิลป์กรมศิลปากร พระพรหมได้ถูกติดตั้งที่หน้าโรงแรมเอราวัณในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 ศาลพระพรหมที่โรงแรมเอราวัณนับเป็นศาลที่ใหญ่ที่สุดแห่งแรกที่มีพระพรหมประดิษฐานอยู่ ตามความเชื่อของชาวฮินดู พระพรหมเป็นเทพเจ้าแห่งผู้สร้าง พระพักตร์มี 4 พระพักตร์ ซึ่งแต่ละพระพักตร์หมายถึงทิศทั้ง 4 คือ เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก จึงสามารถมองเห็นและคุ้มครองทุกสิ่งทั้งในโลกมนุษย์และสวรรค์ สามารถขจัดความยุ่งยากและอุปสรรคต่าง ๆ ส่งเสริมโชคลาภและความสำเร็จแก่ผู้บูชาด้วยจิตคารวะ
ปัจจุบันศาลท้าวมหาพรหม ณ โรงแรมเอราวัณ อยู่ในความดูแลของ “มูลนิธิธารท้าวมหาพรหม” นักท่องเที่ยวและผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและสักการะศาลท้าวมหาพรหม ณ โรงแรมเอราวัณ ได้ทุกวันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถขจัดความยุ่งยากและอุปสรรคต่าง ๆ ส่งเสริมโชคลาภและความสำเร็จแก่ผู้บูชาด้วยจิตคารวะ
วิธีการอธิษฐานที่ศาลเจ้าอย่างถูกต้องมีดังนี้ อันดับแรกซื้อดอกไม้ ธูป เทียน มีเคาน์เตอร์อยู่ด้านขวาในศาลเจ้า ไม่ถึง 50 บาท ต่อไปเริ่มจากด้านหน้าและด้านหน้าขององค์พระหันหน้าไปทางทางเข้าศาลเจ้า อธิษฐานอย่างจริงใจในทิศทางตามเข็มนาฬิกา วางเทียน 1 เล่ม ดอกไม้ 1 พวง และธูป 3 ดอก ที่หน้าทั้งสี่ด้าน และขอพร จบด้วยการเยี่ยมด้วยการล้างหน้า/มือ/ขา จากโกศทองไปด้านข้าง หากคำอธิษฐานของคุณได้รับการตอบรับและความปรารถนาของคุณเป็นจริง คุณควรกลับไปที่ศาลเจ้าเพื่อขอบคุณโดยซื้อมะพร้าว ช้างไม้ และอื่นๆ ที่เคาน์เตอร์แล้ววางไว้ที่โต๊ะหน้าพระพุทธรูป ขอแนะนำให้จ้างนักเต้นในศาลเจ้าเพื่อเต้นรำให้กับคุณ
เครดิต : gclub
